ตูป๊ะ หรือ กือตูปัต (Ketupat)
ขนมวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการทำกันทุกปี
เมื่อวันสำคัญทางศาสนามาถึง เฉพาะวันรายอ อีดิลฟิตรี และอีดิลอัฎฮาเ่ท่านั้น
ขนมวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการทำกันทุกปี
เมื่อวันสำคัญทางศาสนามาถึง เฉพาะวันรายอ อีดิลฟิตรี และอีดิลอัฎฮาเ่ท่านั้น
อาสาสมัครโครงการสื่อสันติภาพอำเภอรือเสาะ ถ่ายภาพ/รายงาน-VPEP.
อัปโหลด Youtube.com โดย peacemedianara
ตูป๊ะ ขนมพื้นบ้านประจำท้องถิ่นในเขตสามจังหวัดชายแดนใต้ เป็นสัญลักษณ์ใน วันฮารีรายอ ของดินแดนแห่งนี้โดยเฉพาะ
เพราะแม้แต่ในประเทศเพื่อนบ้านก็ยังไม่มีการทำกันอย่างแพร่หลาย
แต่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้...แทบทุกบ้านจะทำ ตูป๊ะ เพื่อเตรียมไว้สำหรับรับประทานกันเองและแจกญาติมิตรเฉพาะในช่วงรายอ
ตูป๊ะ หรือ ตูปัต คือ ข้าวต้มใบกะพ้อ
มีลักษณะคล้ายข้าวต้มมัด
แต่นิยมห่อด้วยใบกะพ้อหรือใบจากเป็นรูปสามเหลี่ยม
มักจะทำกันในวันก่อนรายอหนึ่งวัน
โดยนำ "ใบกะพ้อ" ซึ่งควรใช้ยอดใบที่ยังไม่กางมาสานเป็นลูก
ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม มีสามมุม
จากนั้นนำข้าวเหนียวขาวหรือข้าวเหนียวดำที่ผัดกับน้ำกะทิ น้ำตาล เกลือ
จะใส่ถั่วขาวหรือถั่วดำเพื่อความอร่อยยิ่งขึ้นก็ได้
มาห่อด้วยใบกะพ้อเป็นสามเหลี่ยม แล้วนึ่งจนสุก
ก็จะเป็น ตูป๊ะ ที่เหนียวนุ่มละมุนลิ้น
ภาพจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Ketupat
อย่างไรก็ตาม Ketupat ยังเป็นขนมที่พบได้ในแถบเพื่อนบ้านของเรา ทั้ง บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ โดยจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละถิ่น เช่น pusô , bugnóy, patupat และ ta’mu
(อ่านกระทู้เรื่องนี้เพิ่มเติมที่ http://www.cebucentral.com/bestofcebu/Puso.html)
ภาพจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Ketupat
ภาพจาก http://my-indonesian-food.blogspot.com
นอกจากนี้ ลักษณะการห่อก็จะมีแตกต่างกันไป ตามวัตถุดิบหลัก
คือ ข้าวที่นำมาใช้ และ ใบพืชที่นำมาห่อ
สนใจวิธีการสานห่อ Ketupat / Puso
(แบบมีสีสันเหล่านี้...ฝีมือแจมเองจ้ะ)
(แบบมีสีสันเหล่านี้...ฝีมือแจมเองจ้ะ)
ซึ่งมีการดัดแปลงใช้วัสดุอื่น ๆ
เพื่อนำไปตกแต่ง แทนการใช้เป็นห่อขนม
ใครรู้จัก เคยเห็น เคยชิม "ตูป๊ะ" มาคุย มาเล่าแบ่งปันกันนะจ๊ะ
ขอบคุณ - credit :
อาสาสมัครโครงการสื่อสันติภาพอำเภอรือเสาะ
http://en.wikipedia.org/wiki/Ketupat
http://my-indonesian-food.blogspot.com
http://www.gotoknow.org/blogs/posts/497524
http://www.marketmanila.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น